ทำไม “คนจน” เล่นหวย “คนรวย” เล่นหุ้น (ลงทุนกับหุ้นสบายและง่ายที่สุดจริงหรือ)

Last updated: 2 Oct 2017  |  3070 Views  | 

ทำไม “คนจน” เล่นหวย “คนรวย” เล่นหุ้น (ลงทุนกับหุ้นสบายและง่ายที่สุดจริงหรือ)

เคยได้ยินมาว่า “คนจน” เล่นหวย “คนรวย” เล่นหุ้น
ผม “คนจน” แต่ทะเยอทะยาน อยากเล่นหุ้น (ถ้าผมเล่นหุ้น คิดเหรอว่าผมจะไม่เล่นหวย)

Money Expro คือ จุดเริ่มต้นของผม ผมเข้าไปนั่งฟังเรื่องหุ้น แบบชนิดไม่เข้าใจเอาซะเลย “ทำงัย เล่นยังงัย”
ทำไม ทำไม ทำไม คิดว่าเล่นหุ้น คือการลงทุนที่ง่ายและสบายที่สุด (ในความคิดของผม) คือว่า นั่งหน้าคอมฯ หลายๆ ตัว จิบกาแฟ แล้วก็ได้เงิน (มันคือฝันของผม) แท้จริงเป็นอย่างนั้นเหรอ

ความไม่รู้ อยากรู้แค่ว่า “หุ้นเล่นอย่างไร” อันดับแรกเลย ผมต้องหา Idol ของผมก่อนเลย บุคคลท่านนั้นหนีไม่พ้น (ผมคิดว่าคนเล่นหุ้นทุกคนต้องรู้จัก) Warren Buffett (คือผู้ถือหุ้น และ รวยที่สุดในโลก) ผมอ่านไปอ่านมา เจอแต่ความรวยอยู่ในหัว ก็เลยคิดว่า อยากเป็นผู้เล่น และ ผู้ลงทุนบ้าง

จะทำอย่างไร ถึงจะได้ “หุ้น” (สรุปง่ายๆ พอเข้าใจได้ในขณะนั้น)
1 เปิด Account (ที่ไหนก็ได้ ที่เรียกว่า Broker) ผมใช้ที่ KS บริษัทหลักทรัพย์ ของกสิกรไทย (เพราะมันสีเขียว Green ๆ Clean ๆ ดี)

2 หาเงินลงทุนกับหุ้นสักก้อน (ด้วยวิธีเหล่านี้ เงินเก็บ กู้แบงค์ รูดบัตรเครดิต ยืมเพื่อน พ่อ แม่ พี่น้อง ลุง ป้า น้า อา) ตามที่ต้องการลงทุน

3 ติดตั้ง Software ชื่อ Settred Streaming สักตัวเจ๋งๆ
User / Password จาก Broker ก็เข้าสู่โหมดการท่องเที่ยวอย่างอิสระได้แล้ว (เพราะเราคือ แมลงเม่า ตัวสำคัญ)

4 เลือกหุ้น ที่ดี (หุ้นที่ดี คือ หุ้นอะไรว่ะ) และเหมาะสมกับการลงทุน มี 3 แบบ
4.1 หุ้น
4.2 อนุพันธ์
4.3 Gold Tutres
(ไม่ขออธิบาย เพิ่มเติมนะ เพราะตัวผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก)

5 จัด Port การลงทุน (Port คือ เลือก บริษัทฯ ที่เราจะลงทุนด้วย) จะลงทุน หรือ อยากเป็นเจ้าของบริษัทฯ ไหนก็ได้
เช่น ถ้าอยากผูกขาดตลาดเพิ่มเติม ขอสนับสนุน นี่เลย CPALL MACRO

กฎ กติกา มารยาท ในการลงทุนในหุ้น
1 ต้องมีผู้ซื้อ
2 ต้องมีผู้ขาย
3 ต้อง Matching กัน

สมมุติ ผมต้องการซื้อ NOK ของ Nok Air ราคาหุ้นละ 20 บาท จำนวน 2,000 หุ้น (เวอร์ล่ะ) = 40,000 บาท (ไม่ใช่ว่าจะซื้อได้เลยนะ ดูกฎข้างบนครับ) ต้องมีคนขายในราคาที่เราต้องการซื้อนะครับ และ ต้อง Matching กันด้วย

ผมตั้งซื้อ ไม่เกิน 5 นาที (Matching) แล้ว

คำถาม ทำไมเร็วจัง ตั้งตัวไม่ทัน
คำตอบ ไม่มี

พระเจ้า กับ ตรรกะนี้
ผมตั้งซื้อ 20 บาทต่อหุ้น จำนวน 2,000 หุ้น เป็นเงิน 40,000 บาท
ผมตั้งขาย 21 บาทต่อหุ้น จำนวน 2,000 หุ้น เป็นเงิน 42,000 บาท (ง่าย ๆ สบาย ๆ กำไร 2,000 บาท)

ปรากฎว่า (ผมรอนานมาก รอจนทนไม่ไหว จะไหวตัวอีกทีตลาดใกล้ปิด) ไม่ Matching สักที

คำถาม เกิดอะไรขึ้น
คำตอบ แว๊ป ๆ มีคนปั่นป่าวว่ะ

รอไปรอมา ณ ขณะเวลานั้น
ผมตั้งขาย 21 บาทต่อหุ้น จำนวน 2,000 หุ้น เป็นเงิน 42,000 บาท (ง่าย ๆ สบาย ๆ กำไร 2,000 บาท) ปรากฎว่า หุ้นล่วง เหลือ 19 บาท จำนวน 2,000 บาท

สมมุติ ถ้าขาย คือ (ขาดทุน) ถ้าไม่ขาย คือ (รอทรง กะ ทรุด) การซื้อขายประเภทนี้ เราเรียกกันว่า เกร็งกำไร ถ้าซื้อแล้ว หุ้นจะขึ้น หรือ ลง เก็บไว้นาน ๆ เราเรียกว่าหุ้น VI (Value Investment) รอปันผล (อันนี้น่าสนใจสุด)

ผมประเภทต้องรู้เรื่องเร็ว ๆ ทำอะไรต้องเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ทรง กะ ทรุด (สถานเดียว) เพราะการทำอะไร หรือ ธุรกิจอะไร (ต้องใช้เวลากับมันอย่างจริงจัง) ผมเลยถูกเรียกว่า แมลงเม่า ปลีกแข็ง ทันที

ในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือน ผมมีหนังสือ รวยหุ้น คนเล่นหุ้น เศรษฐีหุ้น ประมาณ 10 กว่าเล่ม อ่านแล้วอ่านอีก ดู Youtube ดร. นิเวศน์ คุณภาวิช และ พิชัย หลายๆ รอบ ดูกราฟแท่งเทียนจุดตัดทุกจุด สารพัด เพื่อแค่อยากรู้เรื่องหุ้น

จึงสรุปได้ว่า การเล่นหุ้น หรือ ลงทุนในหุ้น ไม่ใช่การลงทุนที่ง่ายและสบายที่สุด สำหรับใครบางคน (โดยเฉพาะผม) แต่สิ่งที่ผมได้แน่ ๆ โดยไม่รู้ตัวอีกเช่นเคย คือ ความรู้มหาศาล ประวัติความเป็นมาของบริษัทฯ หลาย ๆ บริษัท รู้ใครคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ รู้เรื่องการลงทุน การจัด Port การลงทุน การตัดจุดความเสี่ยงการลงทุน และ ผมก็ได้นำมาปรับใชักับธุรกิจ FUR ของผมได้เป็นอย่างดี

FUR จะถูกเรียกว่าตนเองว่า เป็นบริษัทฯ ที่สร้าง Business Model (เริ่มแรก) เกี่ยวกับเรื่องมือถือ ผมจำลองธุรกิจร้านมือถือ ด้วย จินตนาการ ที่ว่า One Shop One Concept One Design (แต่ละร้านไม่เหมือนกัน) ผมจึงต้องเข้าถึงและเข้าใจผู้ประกอบการร้าน กับ สภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างดี เรื่องการลงทุน และ สร้าง Model ธุรกิจ แบบมีสัดส่วน

วันนี้ FUR เป็น บริษัทฯ ทางเลือก ที่เราสร้าง Business Model ตั้งแต่เริ่มแรก จนถึงขบวนการสุดท้าย ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ให้กับร้านมือถือ มือใหม่ หรือ Renovate ร้าน ทั่วราชอาณาจักร

1 ผมลงทุนกับสิ่งที่ผมมีประสบการณ์ (จากการลองผิดลองถูก) กับร้านค้ามามาก ผมได้มีนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับร้านค้า

คำถาม ผู้ประกอบการบอกว่า ไม่ต้องแต่งร้านให้สวยหรือหรูหรามาก เพราะเดียวไม่มีคนเข้าร้าน เพราะย่านนี้มีแต่คนบ้านๆ (พฤติกรรมผู้บริโภคเดิมๆ)

ผมทำงานกับทุกร้าน ผมจะอธิบายคำนี้ ตลอด ครับ ว่า การทำอะไร ให้อยู่ในระดับ Version สูงสุด จะ รองรับ Version ต่ำสุด ได้ แต่ถ้าผมทำอะไร ให้อยู่ในระดับ Version ต่ำ หรือ กลาง ๆ ผมไม่สามารถรับ Version l สูงสุด ได้ หมายความว่า

เวลาแต่งร้าน ควรแต่งร้านให้ดูดีไว้ครับ เราจะได้รับลูกค้า ได้ทุกกลุ่ม ทุกประเภท
ถ้าเราแต่งร้าน ไม่สวย กลาง ๆ เราจะรับลูกค้า กลุ่ม VIP (ไม่ค่อยได้) เพราะความน่าเชื่อถือ

ร้านหรู ขายราคาถูกได้ ครั้งแรก ๆ อาจจะยังเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ แต่ได้สัมผัส พูดคุยแล้ว ร้านอาจจะมียอดขายเพิ่มขึ้น จากการบอกต่อ เล่าต่อ ได้

2 ตั้งใจ และ จริงใจ กับ ความมีระเบียบวินัยของพวกผม
กำหนดเป้าหมายชัดเจน ระยะเวลาดำเนินชัดเจน มองความสำคัญของผู้ประกอบการเป็นหลัก ผมจึงตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี

3 ผู้ประกอบการ เป็นผู้กำหนด งบประมาณ รายละเอียด ฟังก์ชั่น และผมจะจินตนาการ สร้าง Creative Business Model งาน อย่างละเอียดรอบครอบนำเสนอในกรอบระยะเวลา

วันนี้ หุ้น กับ FUR หันหลังให้กันอย่างสิ้นเชิง (ถ้ามีเวลา ก็อาจจะไป ดูแล Port บ้าง)

ผมสรุปแต่แรกครับ การลงทุนหุ้น คือ การลงทุนระยะยาว (VI) รอปันผล
แต่การลงทุนธุรกิจ คือ เราต้องทำทุกอย่าง คือ การลงทุนระยะสั้น (ไตรมาส) และหวังผลในระยะยาว เช่นกัน

This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy